กาชาดชวนพสกนิกรชาวไทย บริจาคโลหิต น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช ตลอดเดือนตุลาคม 2566

     ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนพสกนิกรชาวไทย“น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดเดือนตุลาคม 2566
     รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมของทุกปีมีวันสำคัญที่ปวงชนชาวไทยระลึกถึงทุกปีคือ วันที่ 23 ตุลาคม หรือ วันปิยมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงวางรากฐานด้านการศึกษา โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนหลวงสำหรับราษฎรขึ้นเป็นแห่งแรก พระราชกรณียกิจด้านการพยาบาลและสาธารณสุข โปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลวังหลังรวมถึงการปกป้องประเทศจากการสงครามและเสียดินแดน และนำความเจริญสู่สยามประเทศ นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้ง “สภาอุณาโลมแดง” ขึ้น และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อปี พ.ศ. 2436 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “สภากาชาดไทย” จวบจนปัจจุบันนี้

 

     อีกวันที่พสกนิกรชาวไทยระลึกถึง คือวันที่ 13 ตุลาคม หรือ วันนวมินทรมหาราช ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รักเทิดทูน และเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อวงการแพทย์ทรงสนับสนุนส่งเสริมงานด้านบริการโลหิต มาอย่างต่อเนื่อง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร “รังสิตานุสรณ์” เพื่อเป็นอาคารที่ทำการบริการโลหิต และเมื่อวันที่13 ตุลาคม พ.ศ. 2512 เสด็จพระราชดำเนินไป
ทรงเปิด “อาคารศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ” เพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการบริการโลหิตหลังใหม่

 

     นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทั้ง 2 พระองค์ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ
อันเป็นคุณประโยชน์อเนกอนันต์แก่อาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญ ทรงยึดถือมั่นในทศพิธราชธรรม และดำรงพระองค์มั่นในราชธรรมทั้งสิบประการโดยสม่ำเสมอ ยังผลให้เกิดความรุ่งเรืองและเป็นปึกแผ่นของชาติ เป็นที่ประจักษ์แจ้ง
แก่ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติจนกระทั่งเสด็จสวรรคต
     ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงได้จัดทำโครงการ “น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ 2 มหาราช” บริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ ร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล ตลอดเดือนตุลาคม2566 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed station) และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ ทั่วประเทศ

ชวนชาว TikTok “ร้อง เต้น เล่นลิปซิงค์” เพลง Give Blood…Give Lives กับโครงการ BRAND’S Young Blood 2023

     ‘ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ  X ‘แบรนด์ ซันโทรี่’ ชวนเหล่า TikToker ส่งคลิปประกวด “ร้อง เต้น หรือเล่นลิปซิงค์” ผ่านเพลง Give Blood Give Lives แสดงพลังเลือดใหม่ของคนรุ่นใหม่ กับโครงการ “BRAND’S Young Blood 2023 พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต” ชิงทุนการศึกษา และเกียรติบัตร พร้อมรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด ดื่มฟรี! ตลอดทั้งปี

     สำหรับโครงการ  BRAND’S Young Blood 2023 ยังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังเลือดใหม่ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

  • กิจรรม BRAND’S Young Blood New Blood ชวนเยาวชนคนรุ่นใหม่ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ทั่วประเทศ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 7 แห่ง (Fixed Station) และหน่วยเคลื่อนที่ในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา
  • กิจกรรมการประกวด หรือ BRAND’S Young Blood Game Creator ในหัวข้อ BRAND’S Young Blood Hero กิจกรรมที่สนับสนุบให้นิสิต นักศึกษา อายุไม่เกิน 23 ปี ได้มีโอกาส แสดงความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานเกมจากคอมพิวเตอร์ ด้วยแนวคิดรณรงค์การบริจาคโลหิต สร้างจิตสำนึก และความภูมิใจของการเป็น “ผู้ให้” ความเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนรุ่นใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงมาร่วมบริจาคโลหิต กู้วิกฤติโลหิตขาดแคลนและสำรองโลหิตคงคลังไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเกียรติบัตร และทุนการศึกษาจำนวน 50,000 บาท และผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัดดื่มฟรีตลอดปี

        คุณสมบัติผู้ส่งผลงาน

  1. ต้องเป็นนิสิตนักศึกษาในสังกัดสถาบันการศึกษาอย่างถูกต้อง และมีอายุไม่เกิน 23 ปี
  2. ผู้ส่งผลงานต้องระบุที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้สะดวกในประเทศไทย
  3. ผู้ส่งผลงาน 1 คน หรือ 1 ทีม (ทีมละไม่เกิน 3 คน) สามารถส่งได้ไม่จำกัดจำนวนผลงาน
  4. ครอบครัวของพนักงาน บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด และศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ไม่มีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวด
 
     ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดคลิป TikTok ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2566 และประกาศผลผู้ที่ได้รับรางวัลในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ดาวน์โหลดใบสมัคร และรายละเอียดกิจกรรมฯ ได้ที่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายจัดหาผู้บริจาคโลหิตและสื่อสารองค์กร โทร.02-255-4567, 02-263-9600 ต่อ 1743, 1752 และ 1753

เฉลิมฉลองวันขอบคุณผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก พร้อมเดินหน้าตามหา “คู่แท้สเต็มเซลล์” รายใหม่ให้กับผู้ป่วยโรคเลือด

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชวนประชาชนร่วมกิจกรรม วันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก 2566เพื่อขอบคุณอาสาสมัครและผู้บริจาคสเต็มเซลล์ที่ได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ป่วย พิเศษ! ผู้บริจาคโลหิตพร้อมลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ จะได้รับเสื้อยืด “Stem Cells in Thailandเป็นที่ระลึก ตลอดเดือนกันยายน 2566

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไท 
เปิดเผยว่า องค์กร World Marrow Donor  Association (WMDA) กำหนดให้วันเสาร์ที่ 3 ของเดือนกันยายนทุกปี เป็นวันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก (World Marrow Donor Day) เพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริจาคสเต็มเซลล์ และอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ทั่วโลกมากกว่า 39 ล้านคน และรณรงค์ให้ทั่วโลกจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการบริจาคสเต็มเซลล์ช่วยเหลือผู้ป่วย ที่รอการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มากกว่า 35,000 รายต่อปี โดยจัดกิจกรรมครั้งแรก ในปี 2558 ซึ่งมีมากกว่า 55 ประเทศเข้าร่วม

ปัจจุบัน ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากแพทยสภา ให้ทำหน้าที่จัดหาอาสาสมัครผู้บริจาคสเต็มเซลล์ ที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย โดยจัดตั้ง “ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ” เพื่อเป็นศูนย์กลางการลงทะเบียน ตั้งแต่ปี 2545 เป็นเวลา 21 ปีแล้ว ปัจจุบันมีอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ จำนวน 337,491 ราย ผู้บริจาคสเต็มเซลล์ให้ผู้ป่วยไปแล้ว จำนวน 583 ราย และยังมีผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์มากถึง 1,883 ราย ซึ่งโอกาสที่พบผู้บริจาคที่มีสเต็มเซลล์เข้ากันกับผู้ป่วย มีเพียง 1 ใน 10,000 คนเท่านั้น ดังนั้น การจัดหาอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ซึ่งในปีนี้ วันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก ตรงกับวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 โดยมีกิจกรรม ดังนี้

วันที่ 1 – 30 กันยายน 2566

  • บริจาคโลหิตพร้อมลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครสเต็มเซลล์ (รายใหม่)รับเสื้อยืดที่ระลึกเนื่องในวันผู้บริจาคสเต็มเซลล์โลก ปี 2566 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ, สถานีกาชาด11 วิเศษนิยม (บางแค) และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 4 แห่ง ได้แก่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จ.ชลบุรี จ.นครราชสีมา จ.ขอนแก่น และจ.เชียงใหม่
  • กิจกรรม แชะ แชร์ โชว์ โพสต์ภาพและข้อความเชิญชวนเป็น ครอบครัวอาสาสมัครสเต็มเซลล์ โพสต์ลง Facebook , Instagram ตั้งค่าเป็นสาธารณะ ติด Hashtag #thankyoudonor #WMDD2023 คัดเลือก 20 โพสต์โดนใจ ลุ้นรับรางวัล แก้วน้ำ Thank you Stem cells Donor

ชวนคนไทย วิ่งหาเลือด เพื่อผู้ป่วย 2023 VIRTUAL RUN “RUN FOR BLOOD”

          ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมกับ คณะกรรมการจัดหาและส่งเสริมผู้ให้โลหิตแห่งสภากาชาดไทย ชวนคนไทยทั่วประเทศ แสดงพลังการให้ ในโครงการ Virtual Run “Run for Blood  วิ่งหาเลือด เพื่อผู้ป่วย 2023” วิ่งที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ระหว่างวันที่ 1 กันยายน – วันที่ 5 ธันวาคม 2566 รายได้สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ

          รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นแกนกลางในการจัดหาโลหิตบริจาคให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพ ปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ให้และผู้รับ ตามนโยบายหลักว่า โลหิตทุกยูนิต ต้องได้รับจากการบริจาคโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน โดยกระบวนการการทำงานตั้งแต่เจาะเก็บโลหิต ตรวจคัดกรองโลหิต ปั่นแยกส่วนประกอบโลหิต และจ่ายให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ ช่วยในการสนับสนุนการทำงานเพื่อให้ได้โลหิตที่มีคุณภาพสำหรับผู้ป่วย

          ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ จึงได้จัดโครงการ Virtual Run “Run for Blood วิ่งหาเลือด เพื่อผู้ป่วย 2023เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2566 โดยนำรายได้สนับสนุนการเจาะเก็บโลหิต การตรวจคุณภาพโลหิต และการปั่นแยกส่วนประกอบโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ รวมถึงการรณรงค์การจัดหาผู้บริจาคโลหิต ทั้งภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ผู้บริจาคโลหิตมีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

ผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการฯ ได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

ช่องทางที่ 1 ลงทะเบียนวิ่งสะสมระยะทาง ค่าสมัคร 500 บาท(เสื้อวิ่ง และเหรียญ)

ลงทะเบียนวิ่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. – 31 ต.ค. 66
สมัครได้ที่ :https://race.thai.run/runforblood2023

การส่งผลวิ่ง ส่งผลภายในวันที่ 1 ต.ค.– 5 ธ.ค.66 เวลา 00.00 น.
ส่งผลวิ่งได้ที่ : https://vr.thai.run/runforblood2023

ลุ้นรางวัลพิเศษ  นักวิ่งสายสตรองสะสมระยะวิ่งได้มากที่สุด 5 อันดับแรก

ช่องทางที่ 2
สนับสนุนทำบุญซื้อเสื้อวิ่ง ราคา 300 บาท
ส่วนกลาง
– ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์

ส่วนภูมิภาค
– ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต

ช่องทางที่ 3 ร่วมบริจาคเงิน
บัญชี RUN FOR BLOOD – วิ่งหาเลือด    เพื่อผู้ป่วย” ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย บัญชีออมทรัพย์
429-163199-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย
(ลดหย่อนภาษี 2 เท่า)

 

 

กาชาดชวนพสกนิกรชาวไทย น้อมจิตบริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดเดือนสิงหาคม 2566

           ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ น้อมจิตบริจาคโลหิต  ถวายสดุดี 91 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ตลอดเดือนสิงหาคม 2566

          รศ.พญ. ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทย วันที่ 12 สิงหาคม 2499 จวบจนปัจจุบันเป็นเวลา 67 ปี ใต้ร่มพระบารมีที่สภากาชาดไทยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ในการประกอบพระราชกรณียกิจคุณูปการแก่สภากาชาดไทย ทำให้กิจการของสภากาชาดไทยมีความก้าวหน้ายั่งยืนเป็นหน่วยงานที่ดำเนินงานตามหลักมนุษยธรรมและหลักการกาชาดสากล เพื่อความผาสุข ความเจริญของประชาชนและประเทศไทยตราบจนปัจจุบัน ด้วยความสนพระราชหฤทัย สนับสนุนงานด้านบริการโลหิตมาตั้งแต่ต้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึก แก่ผู้บริจาคโลหิตครบตามที่สภากาชาดไทยกำหนด นับเป็นแรงจูงใจ และเป็นความปีติภาคภูมิใจแก่ผู้บริจาคโลหิต ทำให้สภากาชาดไทยมีผู้ประสงค์จะบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตลอดมา

          ในการนี้ ทรงมีพระราชดำรัสขอบคุณผู้บริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต ในพิธีเปิดงาน “ดุจสายทิพย์ธารา” เพื่อผู้บริจาคโลหิต เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2536 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ความว่า “การบริจาคโลหิตของท่าน คือ ทานอันบริสุทธิ์ ด้วยท่านพร้อมที่จะให้โดยไม่คำนึงว่าผู้รับจะเป็นใครและให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ นอกจากท่านจะเสียสละโลหิตในกาย และเสียสละเวลาในการประกอบงานแล้ว                    หลายท่านยังต้องอุตสาหะเดินทางไปยังหน่วยรับบริจาคโลหิตต่างๆ ด้วยความยากลำบาก เพื่อจะได้บำเพ็ญทานอันบริสุทธิ์นี้ ด้วยศรัทธาที่แรงกล้ายิ่ง”

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ขอชวนเชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมแสดงความจงรักภักดี ด้วยการบริจาคโลหิต ตลอดเดือนสิงหาคม 2566 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 7 แห่ง ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ

กาชาดชวนจิตอาสา ทำความดี บริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566

          ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญพสกนิกรทั่วประเทศ ร่วมเป็นจิตอาสา ทำความดี บริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ          พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 71 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2566

          รศ.พญ. ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 71 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ด้วยมีพระราชประสงค์ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาท เพื่อสืบสานรักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแด่อาณาประชาราษฎร์ ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ซึ่งล้วนมีการสร้างสรรค์ความผาสุขสงบแก่ประชาชน นำความเจริญไพบูลย์และความมั่นคงมาสู่ประเทศตลอดมา

          ด้านภารกิจของสภากาชาดไทย ทรงเป็นพระบรมราชูปถัมภกสภากาชาดไทย รวมทั้งทรงสนับสนุนงานบริการโลหิต โดยเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ในการนี้  ทรงมีพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต ครั้งที่ 6 เมื่อวันศุกร์ที่  12 ธันวาคม 2518 ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร

 “โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งแห่งชีวิต

การบริจาคโลหิต จึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิตเป็นทานซึ่งเป็นทานที่สูง ควรแก่การยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง”      

            ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ขอเชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมแสดงความจงรักภักดี ด้วยการบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นกิจกรรมในการทำความดี เสียสละเพื่อสังคมส่วนรวม เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง และโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ

*****************************

กาชาดชวนให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2566

          สภากาชาดไทย ชวนผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง บริจาคโลหิตช่วยชีวิตผู้ป่วย เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2566 ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2566 พร้อมรับเสื้อยืดวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2566 แทนคำขอบคุณ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ 8 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ  ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ

           รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 14 มิถุนายน ของทุกปี กำหนดให้เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก เพื่อเป็นวันที่ระลึกถึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ ชาวออสเตรีย ผู้ค้นพบหมู่โลหิตระบบเอบีโอ เป็นครั้งแรก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่องานบริการโลหิตของโลก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) สหพันธ์สภากาชาด และสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) สหพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ (FIODS) และ สมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ (ISBT) เชิญชวนให้สภากาชาดทั่วโลกจัดกิจกรรมเฉลิมฉลอง เพื่อเป็นวันแห่งการขอบคุณผู้บริจาคโลหิต ในประเทศไทยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 19 วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2566  จัดขึ้นภายใต้สโลแกน “Give blood, give plasma, share life, share often – ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ” เพื่อสร้างความตระหนักถึงการบริจาคโลหิต ให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัยสำหรับรักษาผู้ป่วยและเป็นการบริจาคอย่างยั่งยืน

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กำหนดจัดงานวันผู้บริจาคโลหิต 2566 ระหว่างวันที่ 12 – 16 มิถุนายน 2566 โดยมีกิจกรรมดังนี้

  • บริจาคโลหิต พร้อมรับเสื้อยืดวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2566 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติ 8 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ
  • ถ่ายคลิปวิดีโอ Tiktok สร้าง Content “ A B O AB เพราะเลือดทุกหมู่มีความสำคัญ” ติด #WBDD2023 #วันผู้บริจาคโลหิตโลก2566 ลุ้นรับกระเป๋า “Give more Blood, Save more lives” จำนวน 20 รางวัล

ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร. 0 2256 4300, 0 2263 9600 ต่อ 1101, 1760, 1761

 

“กาชาด” ชวนชาวไทยบริจาคโลหิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ตลอดเดือนมิถุนายน 2566

          ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญพสกนิกรทั่วประเทศ ร่วมทำความดีตลอดเดือนมิถุนายน 2565 ด้วยการบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 45 พรรษา 3 มิถุนายน 2566

          รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 45 พรรษา 3 มิถุนายน 2566 และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งในงานพระราชพิธี การพระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้า ทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม การต่างประเทศ การพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านสาธารณสุข รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในทุกภูมิภาค”

          โอกาสอันเป็นมงคลนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้จัดทำโครงการ “จิตอาสา บริจาคโลหิต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 45 พรรษา 3 มิถุนายน 2566” ขึ้น เพื่อให้พสกนิกรทั่วประเทศได้ร่วมแสดงความจงรักภักดีตลอดเดือนมิถุนายน โดยให้การบริจาคโลหิตเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการทำความดี เสียสละเพื่อส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้งยังเป็นการสำรองโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ และทันต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศ

          บริจาคโลหิตได้ที่ : 

  • ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย, สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค)
  • หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ : เดอะมอลล์สาขางามวงศ์วาน สาขาท่าพระ ศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม และบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)
  • ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง), สงขลา และภูเก็ต