วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ เลขที่ 57/12 ถนนโกสีย์ใต้ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ (เป็นการส่วนพระองค์)
เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2555 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสนับสนุนงานบริการโลหิต ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงได้จัดโครงการจัดสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ และได้รับพระราชทานพระราชานุญาต ให้ใช้ชื่อว่า “อาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้รับความอนุเคราะห์ที่ดินของศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ชุมชนที่ 14 สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 จังหวัดนครสวรรค์ กรมป่าไม้ โดยมณฑลทหารบกที่ 31 ได้จัดหาที่ดินแห่งใหม่ให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาวนศาสตร์ชุมชนที่ 14 เมื่อกรมป่าไม้ยกเลิกการใช้ที่ดินแปลงดังกล่าว สำนักงานธนารักษ์ ได้อนุญาตให้สภากาชาดไทย เช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลข นว.303 บางส่วน เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งาน 87 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ ถนนโกสีย์ใต้ ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยรวม 4,226 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายงานบริการโลหิตแบบครบวงจร เป็นมาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เนื่องจากอาคารหลังเดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 491 ตารางเมตร ตั้งอยู่เลขที่ 461/2 หมู่ 9 ถนนสวรรค์วิถี ซอย 45 ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่คับแคบไม่เพียงพอสำหรับการเพิ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ทางห้องปฏิบัติการให้รองรับกับการบริจาคโลหิต การเจาะเก็บโลหิต ปริมาณการส่งตัวอย่างโลหิตตรวจคัดกรอง และการเบิกโลหิตที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี รวมทั้งประสบปัญหาน้ำท่วม เมื่อปี พ.ศ.2554 จึงจำเป็นต้องจัดหาสถานที่ก่อสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์แห่งใหม่ เพื่อขยายศักยภาพงานบริการโลหิตแบบครบวงจรในการรับบริจาคโลหิตในสถานที่ และออกหน่วยรับบริจาคโลหิตนอกสถานที่ การตรวจคัดกรองโลหิต ด้วยวิธี NAT การเตรียมส่วนประกอบโลหิต การควบคุมคุณภาพโลหิต และส่วนประกอบโลหิต จ่ายโลหิตให้แก่โรงพยาบาลในจังหวัดเครือข่ายภาคเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก พิจิตร และชัยนาท ทั้งในสถานการณ์ปกติ หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือเมื่อมีภัยพิบัติได้ทันท่วงที ครอบคลุม การให้บริการแก่ประชากรกว่า 4 ล้านคน เพื่อสนับสนุนการจัดหาโลหิตให้เพียงพอแก่ความต้องการของผู้ป่วย และมีคุณภาพปลอดภัย มีมาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
อาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับการออกแบบที่สวยงามและทันสมัย เพื่อรองรับการขยายงานแบบครบวงจร เป็นมาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสิ้น 4,226 ตารางเมตร
หลังที่ 1 อาคารสำนักงาน สูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย รวม 3,164 ตารางเมตร ประกอบด้วย
ชั้น 1 : ห้องรับบริจาคโลหิต มีเตียงรับบริจาคโลหิตที่ได้มาตรฐาน จำนวน 10 เตียง
ห้องจ่ายโลหิต ห้องเย็นเก็บรักษาโลหิตและส่วนประกอบโลหิต
ห้องล้างอุปกรณ์เครื่องมือทางห้องปฏิบัติการ
ชั้น 2 : ห้องปั่นแยกส่วนประกอบโลหิต ห้องบริหารงานทั่วไป และห้องควบคุมงานระบบคอมพิวเตอร์
ระบบไฟฟ้า
ชั้น 3 : ห้องปฏิบัติการตรวจคัดกรองโลหิต และห้องประชุม
หลังที่ 2 อาคารพัสดุและหอพัก สูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 774.5 ตารางเมตร ประกอบด้วย
ชั้น 1 : ห้องแช่แข็งส่วนประกอบโลหิต และห้องเตรียมอุปกรณ์รับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ และพักเวร
พนักงานขับรถ
ชั้น 2 และ 3 : ห้องพักเจ้าหน้าที่
หลังที่ 3 อาคารซ่อมบำรุง สูง 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 272.5 ตารางเมตร ประกอบด้วย
ชั้น 1 : ห้องซ่อมบำรุง ห้องเครื่องปั๊มน้ำ ถังเก็บน้ำดี
ชั้น 2 : ห้องควบคุมไฟฟ้า ห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
หลังที่ 4 อาคารทิ้งขยะรวม เป็นอาคารชั้นเดียว พื้นที่ใช้สอย 15 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องเก็บขยะทั่วไป และห้องเก็บขยะติดเชื้อ
การจัดสร้างอาคารภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลแก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นศูนย์กลางในการรับบริจาคโลหิต และตรวจคัดกรองโลหิตและจ่ายโลหิตให้กับโรงพยาบาล ในเครือข่ายจังหวัดในภาคเหนือตอนล่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยให้มีโลหิตที่มีคุณภาพ เพียงพอ ปลอดภัย อย่างทันท่วงที